วันจันทร์ที่ 17 มีนาคม พ.ศ. 2557

ตัวอย่างการเขียนตอบเรื่องหมายค้นหมายจับ



มาตราที่สำคัญในเรื่อการจับ  มาตรา  66,  78(1)(3),  80,  81, 
มาตราที่สำคัญในเรื่อการค้นที่รโหฐาน  มาตรา  92(1)(2)(3)(5),  80, 
มาตราที่สำคัญในเรื่อการค้นที่สาธารณสถาน  มาตรา  93


            ตัวอย่าง  -เนติสมัย  62
คำถาม 
(ก) เหตุเกิดเวลากลางวันขณะที่นายดำอยู่ที่หน้าบ้านของนายแดง นายดำเห็นนายแดงกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายร่างกายนายขาวหลายครั้งในบ้านของนายแดง อันเป็นความผิดที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา นายดำจึงเข้าไปจับกุมนายแดงในบ้านของนายแดง แล้วนำส่งที่ทำการพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
(ข) นายแดงเจ้าของบ้าน เชิญนายดำให้เข้าไปรับประทานอาหารในบ้านของนายแดง ขณะที่นายดำอยู่ใน
บ้าน นายดำเห็นนายเขียวกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายร่างกายนายเหลืองหลายครั้งในบ้านของนายแดง นายดำจึงเข้าจับกุมนายเขียวส่งที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
            ให้วินิจฉัยว่า การจับกุมของนายดำทั้งสองกรณีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่

ธงคำตอบ
(ก) การจับเป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา มาตรา 78 ราษฎรจะจับได้เมื่อเข้าเกณฑ์ตามมาตรา 79 แม้นายดำจะเห็นนายแดงทำร้ายร่างกายนายขาวอันเป็นความผิดซึ่งหน้าที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา แต่ความผิดนั้นกระทำลงในบ้านของนายแดงอันเป็นที่รโหฐาน นายดำไม่มีอำนาจเข้าไปจับนายแดง เพราะเป็นการจับในที่รโหฐานซึ่งต้องห้ามตามมาตรา 81 เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติที่ว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน เมื่อนายดำเป็นราษฎรย่อมไม่มีอำนาจค้นในที่รโหฐานไม่ว่ากรณีใด ๆ นายดำจึงไม่มีอำนาจเข้าไปจับนายแดง การจับกุมของนายดำตามข้อ (ก) จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย

(ข) นายแดงเจ้าของบ้านเชิญนายดำให้เข้าไปในบ้าน จึงเป็นการเข้าไปในที่รโหฐานโดยชอบ เมื่อนายดำ
อยู่ในบ้านเห็นนายเขียวกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายนายหลือง นายดำสามารถจับนายเขียวได้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 79 และไม่ถือเป็นการค้นในที่รโหฐานอันจะเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 81 เพราะนายดำได้เข้าไปในที่รโหฐานโดยชอบอันเนื่องมาจากการเชิญของนายแดงเจ้าของบ้าน การจับกุมของนายดำ ตามข้อ (ข) จึงชอบด้วยกฎหมาย

เนติสมัย  60
พันตำรวจเอกธรรม ร้อยตำรวจเอกชอบ นายดำ นายแดงและนางสาวเหลืองได้รับเชิญจากนายเขียวเจ้าของบ้านให้ไปร่วมงานเลี้ยงในเวลากลางวันที่บ้านของนายเขียวซึ่งอยู่ติดกับบ้านของนายแดง ขณะอยู่ในบ้านของนายเขียวพันตำรวจเอกธรรมจำได้ว่านายดำเป็นคนร้ายที่ศาลได้ออกหมายจับไว้ ส่วนนางสาวเหลืองจำได้ว่านายแดงเป็นคนร้ายที่ได้ข่มขืนกระทำชำเราตนเมื่อสัปดาห์ก่อน นางสาวเหลืองจึงชี้ให้ร้อยตำรวจเอกชอบจับนายแดงโดยแจ้งว่าได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว พันตำรวจเอกธรรม ร้อยตำรวจเอกชอบ จึงเข้าจับกุมนายดำและนายแดง โดยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการจับกุม แล้วนำตัวนายดำและนายแดงไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
ให้วินิจฉัยว่า การจับนายดำและนายแดงชอบหรือไม่

ธงคำตอบ
การที่พันตำรวจเอกธรรมจับนายดำนั้นเป็นการจับตามหมายจับ แม้เป็นการจับในที่รโหฐานก็ไม่ต้องห้าม
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 81 ที่บัญญัติว่า ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน เพราะการเข้าไปอันถือเสมือนเป็นการค้นในที่รโหฐานนั้นเป็นการเข้าไปโดยชอบ เนื่องจากนายเขียวเจ้าของผู้ครอบครองที่รโหฐานเชื้อเชิญให้เข้าไปพันตำรวจเอกธรรมไม่ต้องขอหมายค้นของศาลเพื่อเข้าไปค้นบ้านที่ตนอยู่ในบ้านโดยชอบแล้ว การจับนายดำเป็นการชอบ

ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78 (3) ประกอบมาตรา 66 (2) เจ้าพนักงานตำรวจ
จะจับนายแดงโดยไม่มีหมายจับได้ต่อเมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่านายแดงน่าจะได้กระทำผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่านายแดงจะหลบหนี หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน หรือก่อเหตุร้ายประการอื่นและมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับนายแดงได้ กรณีนี้ไม่ปรากฏว่านายแดงมีท่าทีจะหลบหนี ประกอบกับนายแดงมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง ร้อยตำรวจเอกชอบจะจับนายแดงโดยไม่มีหมายจับของศาลไม่ได้ การจับนายแดงเป็นการไม่ชอบ

คำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่  8764/2554
ป.วิ.อ. มาตรา 78(1), 80(2), 92(3)
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจทันทีแล้วเจ้าพนักงานตำรวจได้ออกสกัดจับคนร้ายในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี ก่อนจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจรับทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถจักยานยนต์ของคนร้ายและของผู้เสียหายจากผู้เสียหาย และเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งออกมาสกัดจับคนร้ายที่พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทั้งสองคันตามที่ได้รับแจ้งในเวลาต่อเนื่องกัน และยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมกับจำเลยที่ 2 ชิงทรัพย์ผู้เสียหายแล้วขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ชิงมาได้หลบหนีฝ่าด่านสกัดของเจ้าพนักงานตำรวจ เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมยังติดตามต่อเนื่องจนกระทั่งพบเห็นจำเลยที่ 1 วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านของจำเลยที่ 1 ซึ่งตามพฤติการณ์แทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดมาแล้วสด ๆ อันถือได้ว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าตาม ป.วิ.อ. มาตรา 80 (2) ที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถกระทำการจับกุมจำเลยที่ 1 โดยไม่ต้องมีหมายค้นและหมายจับได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 78 (1) และมาตรา 92 (3)

คำพิพากษาศาลฎีกาที่  4958/2551
ป.วิ.อ. มาตรา 92(2) (เดิม)

แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลชั้นต้นก่อนเข้าตรวจค้นบ้านจำเลยก็ตาม แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนที่หน้าบ้านจำเลย และเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมได้แอบซุ่มดูและเห็นเหตุการณ์การล่อซื้อดังกล่าว จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมจำเลย เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นความผิดซึ่งหน้า และการตรวจค้นจับกุมได้กระทำต่อเนื่องกัน เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าตรวจค้นบ้านจำเลยได้โดยไม่จำต้องมีหมายค้นตาม ป.วิ.อ. มาตรา 92 (2) (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทำความผิด