มาตราที่สำคัญในเรื่อการจับ มาตรา 66, 78(1)(3),
80, 81,
มาตราที่สำคัญในเรื่อการค้นที่รโหฐาน มาตรา
92(1)(2)(3)(5), 80,
มาตราที่สำคัญในเรื่อการค้นที่สาธารณสถาน มาตรา
93
ตัวอย่าง -เนติสมัย 62
คำถาม
(ก)
เหตุเกิดเวลากลางวันขณะที่นายดำอยู่ที่หน้าบ้านของนายแดง
นายดำเห็นนายแดงกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายร่างกายนายขาวหลายครั้งในบ้านของนายแดง
อันเป็นความผิดที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
นายดำจึงเข้าไปจับกุมนายแดงในบ้านของนายแดง แล้วนำส่งที่ทำการพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
(ข) นายแดงเจ้าของบ้าน
เชิญนายดำให้เข้าไปรับประทานอาหารในบ้านของนายแดง ขณะที่นายดำอยู่ใน
บ้าน
นายดำเห็นนายเขียวกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายร่างกายนายเหลืองหลายครั้งในบ้านของนายแดง
นายดำจึงเข้าจับกุมนายเขียวส่งที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
ให้วินิจฉัยว่า
การจับกุมของนายดำทั้งสองกรณีชอบด้วยกฎหมายหรือไม่
ธงคำตอบ
(ก)
การจับเป็นอำนาจของพนักงานฝ่ายปกครองหรือตำรวจ ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณา
ความอาญา มาตรา 78
ราษฎรจะจับได้เมื่อเข้าเกณฑ์ตามมาตรา 79 แม้นายดำจะเห็นนายแดงทำร้ายร่างกายนายขาวอันเป็นความผิดซึ่งหน้าที่ระบุไว้ในบัญชีท้ายประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา
แต่ความผิดนั้นกระทำลงในบ้านของนายแดงอันเป็นที่รโหฐาน
นายดำไม่มีอำนาจเข้าไปจับนายแดง เพราะเป็นการจับในที่รโหฐานซึ่งต้องห้ามตามมาตรา
81 เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติที่ว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน เมื่อนายดำเป็นราษฎรย่อมไม่มีอำนาจค้นในที่รโหฐานไม่ว่ากรณีใด
ๆ นายดำจึงไม่มีอำนาจเข้าไปจับนายแดง การจับกุมของนายดำตามข้อ (ก)
จึงไม่ชอบด้วยกฎหมาย
(ข) นายแดงเจ้าของบ้านเชิญนายดำให้เข้าไปในบ้าน
จึงเป็นการเข้าไปในที่รโหฐานโดยชอบ เมื่อนายดำ
อยู่ในบ้านเห็นนายเขียวกำลังใช้อาวุธมีดแทงทำร้ายนายหลือง
นายดำสามารถจับนายเขียวได้ โดยอาศัยอำนาจตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา
79 และไม่ถือเป็นการค้นในที่รโหฐานอันจะเป็นการต้องห้ามตามมาตรา 81
เพราะนายดำได้เข้าไปในที่รโหฐานโดยชอบอันเนื่องมาจากการเชิญของนายแดงเจ้าของบ้าน
การจับกุมของนายดำ ตามข้อ (ข) จึงชอบด้วยกฎหมาย
เนติสมัย
60
พันตำรวจเอกธรรม ร้อยตำรวจเอกชอบ นายดำ
นายแดงและนางสาวเหลืองได้รับเชิญจากนายเขียวเจ้าของบ้านให้ไปร่วมงานเลี้ยงในเวลากลางวันที่บ้านของนายเขียวซึ่งอยู่ติดกับบ้านของนายแดง
ขณะอยู่ในบ้านของนายเขียวพันตำรวจเอกธรรมจำได้ว่านายดำเป็นคนร้ายที่ศาลได้ออกหมายจับไว้
ส่วนนางสาวเหลืองจำได้ว่านายแดงเป็นคนร้ายที่ได้ข่มขืนกระทำชำเราตนเมื่อสัปดาห์ก่อน
นางสาวเหลืองจึงชี้ให้ร้อยตำรวจเอกชอบจับนายแดงโดยแจ้งว่าได้ร้องทุกข์ไว้แล้ว
พันตำรวจเอกธรรม ร้อยตำรวจเอกชอบ จึงเข้าจับกุมนายดำและนายแดง
โดยได้ปฏิบัติตามขั้นตอนการจับกุม แล้วนำตัวนายดำและนายแดงไปยังที่ทำการของพนักงานสอบสวนแห่งท้องที่ที่ถูกจับ
ให้วินิจฉัยว่า การจับนายดำและนายแดงชอบหรือไม่
ธงคำตอบ
การที่พันตำรวจเอกธรรมจับนายดำนั้นเป็นการจับตามหมายจับ
แม้เป็นการจับในที่รโหฐานก็ไม่ต้องห้าม
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 81
ที่บัญญัติว่า ไม่ว่าจะมีหมายจับหรือไม่ก็ตาม ห้ามมิให้จับในที่รโหฐาน
เว้นแต่จะได้ทำตามบทบัญญัติในประมวลกฎหมายนี้อันว่าด้วยการค้นในที่รโหฐาน
เพราะการเข้าไปอันถือเสมือนเป็นการค้นในที่รโหฐานนั้นเป็นการเข้าไปโดยชอบ
เนื่องจากนายเขียวเจ้าของผู้ครอบครองที่รโหฐานเชื้อเชิญให้เข้าไปพันตำรวจเอกธรรมไม่ต้องขอหมายค้นของศาลเพื่อเข้าไปค้นบ้านที่ตนอยู่ในบ้านโดยชอบแล้ว
การจับนายดำเป็นการชอบ
ตามประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความอาญา มาตรา 78
(3) ประกอบมาตรา 66 (2) เจ้าพนักงานตำรวจ
จะจับนายแดงโดยไม่มีหมายจับได้ต่อเมื่อมีหลักฐานตามสมควรว่านายแดงน่าจะได้กระทำผิดอาญาและมีเหตุอันควรเชื่อว่านายแดงจะหลบหนี
หรือจะไปยุ่งเหยิงกับพยานหลักฐาน
หรือก่อเหตุร้ายประการอื่นและมีความจำเป็นเร่งด่วนที่ไม่อาจขอให้ศาลออกหมายจับนายแดงได้
กรณีนี้ไม่ปรากฏว่านายแดงมีท่าทีจะหลบหนี ประกอบกับนายแดงมีที่อยู่เป็นหลักแหล่ง
ร้อยตำรวจเอกชอบจะจับนายแดงโดยไม่มีหมายจับของศาลไม่ได้ การจับนายแดงเป็นการไม่ชอบ
คำพิพากษาฎีกาที่น่าสนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 8764/2554
ป.วิ.อ. มาตรา 78(1), 80(2),
92(3)
หลังเกิดเหตุผู้เสียหายแจ้งต่อเจ้าพนักงานตำรวจทันทีแล้วเจ้าพนักงานตำรวจได้ออกสกัดจับคนร้ายในเส้นทางที่คาดว่าคนร้ายจะใช้หลบหนี
ก่อนจับกุมเจ้าพนักงานตำรวจรับทราบข้อมูลรายละเอียดเกี่ยวกับรถจักยานยนต์ของคนร้ายและของผู้เสียหายจากผู้เสียหาย
และเจ้าพนักงานตำรวจซึ่งออกมาสกัดจับคนร้ายที่พบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยทั้งสองคันตามที่ได้รับแจ้งในเวลาต่อเนื่องกัน
และยืนยันว่าจำเลยที่ 1 เป็นคนร้ายที่ร่วมกับจำเลยที่ 2
ชิงทรัพย์ผู้เสียหายแล้วขับรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหายที่ชิงมาได้หลบหนีฝ่าด่านสกัดของเจ้าพนักงานตำรวจ
เจ้าพนักงานตำรวจชุดจับกุมยังติดตามต่อเนื่องจนกระทั่งพบเห็นจำเลยที่ 1
วิ่งหลบหนีเข้าไปในบ้านของจำเลยที่ 1
ซึ่งตามพฤติการณ์แทบจะไม่มีความสงสัยเลยว่าจำเลยที่ 1 ได้กระทำความผิดมาแล้วสด ๆ
อันถือได้ว่าเป็นความผิดซึ่งหน้าตาม ป.วิ.อ. มาตรา 80 (2)
ที่เจ้าพนักงานตำรวจสามารถกระทำการจับกุมจำเลยที่ 1
โดยไม่ต้องมีหมายค้นและหมายจับได้ตาม ป.วิ.อ. มาตรา 78 (1) และมาตรา 92 (3)
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 4958/2551
ป.วิ.อ. มาตรา 92(2) (เดิม)
แม้เจ้าพนักงานตำรวจจะมิได้ดำเนินการขอหมายค้นจากศาลชั้นต้นก่อนเข้าตรวจค้นบ้านจำเลยก็ตาม
แต่ข้อเท็จจริงฟังได้ว่าสายลับล่อซื้อเมทแอมเฟตามีนที่หน้าบ้านจำเลย
และเจ้าพนักงานตำรวจผู้จับกุมได้แอบซุ่มดูและเห็นเหตุการณ์การล่อซื้อดังกล่าว
จึงเข้าตรวจค้นและจับกุมจำเลย
เป็นกรณีที่เจ้าพนักงานตำรวจพบเห็นการกระทำความผิดฐานจำหน่ายเมทแอมเฟตามีนและมีเมทแอมเฟตามีนไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายอันเป็นความผิดซึ่งหน้า
และการตรวจค้นจับกุมได้กระทำต่อเนื่องกัน เจ้าพนักงานตำรวจจึงเข้าตรวจค้นบ้านจำเลยได้โดยไม่จำต้องมีหมายค้นตาม
ป.วิ.อ. มาตรา 92 (2) (เดิม) ซึ่งเป็นกฎหมายที่ใช้บังคับในขณะกระทำความผิด